See Our Terms of Use - Website
See Our End User License Agreement (EULA)
นโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล
ปาร์คเกอร์ ฮันนิฟิน และบริษัทในเครือทั้งหมด (รวมกันเรียกว่า “ปาร์คเกอร์”) เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท (ตามนิยามด้านล่าง) เพื่อการจัดการและบริหารความสัมพันธ์ด้านการจ้างงาน (รวมถึงกิจกรรมก่อนการจ้างงาน ระหว่างการจ้างงาน และภายหลังการจ้างงาน) และความสัมพันธ์กับบุคคลที่สาม (รวมถึงกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ปรึกษา ผู้ให้คำแนะนำ และบุคคลที่สามอื่นๆ) เนื่องจากปาร์คเกอร์เป็นธุรกิจระดับโลก ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกส่งออกไปยังสถานที่ตั้งของปาร์คเกอร์หนึ่งแห่งหรือมากกว่านั้น นอกจากที่ตั้งเดิมที่รวบรวมข้อมูลรวมถึงข้ามพรมแดนประเทศ
ปาร์คเกอร์มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การโอน และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายของสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (รวมถึงข้อกำหนดของสหภาพยุโรป 2016/679 ที่เรียกว่า “ข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล” หรือ “General Data Protection Regulation”) และกฎหมายของประเทศหรือภูมิภาคอื่นที่ปาร์คเกอร์ประกอบธุรกิจ
1.0 วัตถุประสงค์
เพื่อแจ้งให้พนักงานและบุคคลที่สามที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับปาร์คเกอร์ทราบถึงหลักการที่ปาร์คเกอร์เก็บรวบรวม ใช้ โอน และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
2.0 ขอบเขต
นโยบายนี้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ได้รับหรือเก็บรวบรวมโดยปาร์คเกอร์ ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของพนักงานปาร์คเกอร์ทั่วโลกทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตามนโยบายนี้ สำหรับการแก้ไขในกรณีที่มีการละเมิดนโยบายนี้ ดูข้อ 3.4.9 ด้านล่าง
3.0 นโยบาย
3.1 นิยาม
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงบุคคลธรรมดาที่มีชีวิตซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งสามารถถูกระบุอัตลักษณ์ได้จากข้อมูลเองหรือจากข้อมูลร่วมกับข้อมูลหรือข้อมูลอื่นๆ ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย ชื่อ หมายเลขประจำตัว ที่อยู่โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต ตัวระบุคุกกี้ ที่อยู่อีเมล และอื่นๆ อีกมากมาย
“ประมวลผล” “ได้รับการประมวลผล” หรือ “การประมวลผล” หมายถึงกิจกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น การคัดลอก การจัดเก็บ และการป้อนข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูล เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” คือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (สำหรับการระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาอย่างเฉพาะเจาะจง) ความคิดเห็นทางการเมือง หรือ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ความเชื่อทางศาสนาหรือปรัชญา สุขภาพ หรือพฤติกรรมทางเพศ
3.2 การปฏิบัติตามหลักการกรอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
EU-U.S. Data Privacy Framework, UK Extension ภายใต้ EU-U.S. Data Privacy Framework และ Swiss-U.S. Data Privacy Framework ได้กำหนดชุดของหลักการคุ้มครองข้อมูลและกลไกที่เชื่อถือได้ที่ช่วยให้บริษัทในสหรัฐอเมริกาสามารถรับรองการคุ้มครองข้อมูลในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังสหรัฐอเมริกาในลักษณะที่สอดคล้องกับกฎหมายของสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ข้อมูลเกี่ยวกับ Privacy Framework Principles และการรับรองการปฏิบัติตามหลักการของกรอบการคุ้มครองข้อมูลโดยปาร์คเกอร์ ฮันนิฟิน สามารดูได้ที่ https://www.dataprivacyframework.gov/s/
3.3 การจำกัดข้อมูลและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ควรเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นสำหรับเหตุผลทางธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมายหรือตามที่กำหนดโดยกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง (“วัตถุประสงค์”) ข้อมูลส่วนบุคคลควรถูกลบออกเมื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสิ้นสุดลงหรือไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป โดยให้คำนึงถึงแนวทางการเก็บรักษาและการป้องกันข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (1.04) การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกินกว่าระยะเวลาที่ถูกกำหนดในแนวทางการเก็บรักษาและการป้องกันข้อมูล (1.04) ต้องได้รับการจัดทำเป็นเอกสาร พร้อมทั้งระบุเหตุผลอย่างชัดเจนสำหรับการเก็บรักษาข้อมูลไว้เกินระยะเวลาที่กำหนด
3.4 การแจ้งการเก็บรวบรวมและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
3.4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
ปาร์คเกอร์เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการและบริหารความสัมพันธ์ก่อนการจ้างงาน ระหว่างการจ้างงาน และภายหลังการจ้างงาน ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวมและใช้สำหรับกิจกรรมการจ้างงาน การจัดการบุคลากรทั่วไป (รายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง) การบริหารจัดการความปลอดภัยของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสารสนเทศของปาร์คเกอร์ และตามความจำเป็นเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่สามของปาร์คเกอร์กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และบุคคลที่สามอื่นๆ การจัดการบุคลากรทั่วไป ได้แก่ การลงบันทึกเวลางานและการเข้างาน การจ่ายเงินเดือน การให้บริการและการบริหารสวัสดิการแก่พนักงานและผู้อยู่ในอุปการะผู้รับผลประโยชน์ การจัดการประสิทธิภาพงานและการจัดการทักษะ การผลิตสมุดที่อยู่และนามานุกรมของบริษัท การจัดการระบบการสื่อสาร การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน การจัดหาและติดตามการใช้ทรัพยากรของบริษัท เช่น ยานพาหนะของบริษัท โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และบริการเดินทางและความสะดวกในการเคลื่อนย้าย การจัดการข้อมูลติดต่อกรณีฉุกเฉิน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดการรายงานของรัฐบาล สำหรับพนักงานปาร์คเกอร์ในประเทศหรือภูมิภาคเฉพาะ อาจมีการให้ประกาศเฉพาะที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ปาร์คเกอร์จัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการและสวัสดิการตามที่ได้ตกลงกับพนักงานหรือตามที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรายงานของรัฐบาล ในทุกกรณี ปาร์คเกอร์ให้ความมั่นใจว่าการเก็บรวบรวมและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวอย่างจำกัดและดำเนินการในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายนี้และกฎหมายที่มีผลใช้บังคับตลอดเวลา
3.4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
ปาร์คเกอร์เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่คาดหวังว่าจะเป็นลูกค้าและซัพพลายเออร์ในอนาคต ลูกค้าและซัพพลายเออร์ปัจจุบันและในอดีต ผู้จัดจำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ปรึกษา ผู้ให้คำแนะนำ และบุคคลที่สามอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น การประมวลผลและการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ กิจกรรมการบริการลูกค้า การจัดหาวัสดุ สินค้า หรือบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ของปาร์คเกอร์ บริการหรือการบริหาร การบริหารการรับประกันและการเรียกร้อง การตลาด และการตอบสนองต่อข้อกำหนดการรายงานและการเก็บบันทึกของรัฐบาล ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยปาร์คเกอร์โดยทั่วไปประกอบด้วยข้อมูลติดต่อทางธุรกิจ เช่น ชื่อ นายจ้าง ตำแหน่งงาน และข้อมูลติดต่อ และจะใช้เฉพาะในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายนี้และกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ ไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของบุคคลที่สามที่ถูกเก็บรวบรวมหรือประมวลผลยกเว้นในบางกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก และซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอย่างเคร่งครัดรวมถึงความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามการแจ้งอย่างชัดเจนและโปร่งใส ในบริบทของนโยบายนี้ “บุคคลที่สาม” ไม่รวมถึงสมาชิกในครอบครัว ผู้อยู่ในอุปการะ หรือผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินของบุคคลเหล่านั้นในช่วงก่อนการจ้างงาน ระหว่างการจ้างงาน และภายหลังการจ้างงานกับปาร์คเกอร์
3.4.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยเครื่องมือออนไลน์ของปาร์คเกอร์
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันหรือแอปบนอุปกรณ์มือถือ (เรียกรวมกันว่า “บริการออนไลน์ของปาร์คเกอร์”) ปาร์คเกอร์อาจใช้เทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ รายละเอียดของการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริการออนไลน์ของปาร์คเกอร์สามารถดูได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการออนไลน์ของปาร์คเกอร์และข้อกำหนดการใช้งานที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้ ซึ่งสามารถดูได้โดยคลิกที่ลิงก์ “นโยบายความเป็นส่วนตัว” ที่ด้านล่างของหน้าเว็บบน www.parker.com
3.4.4 ทางเลือก
ปาร์คเกอร์ให้โอกาสแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเลือก (เลือกไม่รับ) ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาจะ (1) ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่สาม หรือ (2) ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์เดิมหรือวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน ปาร์คเกอร์อาจไม่สามารถให้บริการหรือผลประโยชน์บางอย่างรวมถึงบริการต่างๆ ได้ หากท่านเลือกที่จะไม่รับสิ่งดังกล่าว เช่น การจ่ายเงินเดือน เป็นต้น หากต้องการทราบวิธีการต่างๆ ในการเลือกไม่รับ โปรดติดต่อปาร์คเกอร์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.5 ด้านล่าง
3.4.5 การโอนต่อ (ไปยังบุคคลที่สาม)
ปาร์คเกอร์อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลที่สามหนึ่งรายหรือมากกว่านั้น ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนหรือพันธมิตรทางธุรกิจของปาร์คเกอร์ โดยจะทำให้แน่ใจว่าบุคคลที่สามดังกล่าวแต่ละรายที่เข้าทำข้อตกลงกับปาร์คเกอร์ (1) สัญญาว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนจะถูกประมวลผลเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำกัดและระบุไว้โดยปาร์คเกอร์และตรงกับความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมาย และ (2) ตกลงที่จะให้การคุ้มครองในระดับเดียวกันที่ถูกกำหนดโดยนโยบายนี้
ในกรณีที่ปาร์คเกอร์ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกใช้โดยบุคคลที่สามในลักษณะที่ไม่ได้รับอนุญาต ปาร์คเกอร์จะดำเนินการตามขั้นตอนที่สมเหตุสมผลและเหมาะสมเพื่อป้องกันหรือหยุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ผู้ให้บริการภายนอกทั้งหมดของปาร์คเกอร์ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนมานั้น ได้ถูกคัดเลือกและตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว เนื่องจากปาร์คเกอร์ตระหนักถึงความรับผิดที่อาจเกิดขึ้นในกรณีของการโอนต่อไปยังบุคคลที่สาม
ปาร์คเกอร์ยังอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง สำนักงานใหญ่ระดับโลกของปาร์คเกอร์ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ปาร์คเกอร์มุ่งมั่นที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวและความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อถูกโอน และใช้มาตรการป้องกันที่เพียงพอในการโอนดังกล่าว รวมถึงการปฏิบัติตาม EU-U.S. Data Privacy Framework UK Extension ภายใต้ EU-U.S. Data Privacy Framework และ Swiss-U.S. Data Privacy Framework
นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ปาร์คเกอร์อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำขอที่ชอบด้วยกฎหมายจากหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามความมั่นคงแห่งชาติหรือข้อกำหนดด้านการบังคับใช้กฎหมาย
3.4.6 ความปลอดภัย
ปาร์คเกอร์ใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การใช้ในทางที่ผิด การเข้าถึง การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต การป้องกันเหล่านี้รวมถึง ตัวอย่างเช่น การป้องกันด้วยรหัสผ่านสำหรับระบบข้อมูลออนไลน์ การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้มาตรการความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตอื่นๆ นอกจากนี้ปาร์คเกอร์ยังจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพเพื่อป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์ฐานข้อมูลหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นสำเนากระดาษโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.4.7 ความสมบูรณ์ของข้อมูล
ปาร์คเกอร์ดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน และเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ของการประมวลผลและถูกใช้ในลักษณะที่สอดคล้องกับที่ได้เก็บรวบรวมหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล
3.4.8 การเข้าถึง
เมื่อมีการร้องขอ ปาร์คเกอร์จะให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองตามสมควรและมีความสามารถที่เหมาะสมในการแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ได้ การเข้าถึงของพนักงานอาจถูกจำกัดในกรณีของการสอบสวนความปลอดภัยของพนักงาน การดำเนินคดี การปรับโครงสร้างองค์กร หรือกรณีที่การอนุญาตเข้าถึงอาจส่งผลกระทบต่อการจัดการที่เหมาะสม
3.4.9 การบังคับใช้และความรับผิด
ปาร์คเกอร์จะดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติตามแนวทางปฎิบัติด้านความเป็นส่วนตัวเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายนี้ สำหรับบุคคลที่มีความสัมพันธ์ในการจ้างงานกับปาร์คเกอร์ การไม่ปฏิบัติตามนโยบายนี้อาจส่งผลให้ต้องมีการดำเนินการทางวินัยถึงขั้นที่รวมไปถึงการยุติการจ้างงาน สำหรับบุคคลที่สามที่มีความสัมพันธ์ทางสัญญากับปาร์คเกอร์ การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของความสัมพันธ์ทางสัญญาอาจส่งผลให้ปาร์คเกอร์ยุติความสัมพันธ์ดังกล่าว
การมีส่วนร่วมของปาร์คเกอร์ใน EU-U.S. Data Privacy Framework UK Extension ภายใต้ EU-U.S. Data Privacy Framework และ Swiss-U.S. Data Privacy Framework ต้องได้รับการตรวจสอบและบังคับใช้โดยคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา
3.4.10 การระงับข้อพิพาท
ในการปฏิบัติตามหลักการของ Data Privacy Framework ปาร์คเกอร์มุ่งมั่นที่จะแก้ไขข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ รวมถึงที่อยู่ในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ที่มีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับ Data Privacy Framework ของเรา ควรติดต่อปาร์คเกอร์ก่อนได้ที่
ปาร์คเกอร์ ฮันนิฟิน คอร์ปอเรชั่น | Parker-Hannifin Corporation
เรียน: ฝ่ายกฎหมาย | Attn: Legal Department
6035 พาร์คแลนด์ บูเลอวาร์ด | 6035 Parkland Boulevard
คลีฟแลนด์ โอไฮโอ 44124 สหรัฐอเมริกา | Cleveland Ohio 44124 U.S.A.
หรือทางอีเมล: dataprivacy@parker.com | or by email to: dataprivacy@parker.com
ปาร์คเกอร์จะพยายามตอบข้อสอบถามหรือแก้ไขข้อร้องเรียนใดๆ ที่เกี่ยวกับการรวบรวมหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเรา สำหรับข้อสอบถามหรือข้อร้องเรียนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและปาร์คเกอร์ ปาร์คเกอร์มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับหน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป (EU Data Protection Authorities) สำนักงานคณะกรรมธิการด้านข้อมูลข่าวสารแห่งสหราชอาณาจักร (UK Information Commissioner’s Office (ICO)) หรือคณะกรรมาธิการสารสนเทศและการปกป้องข้อมูลของรัฐบาลกลางสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss Federal Data Protection and Information Commission (FDPIC)) ตามความเหมาะสม และในกรณีดังกล่าว ปาร์คเกอร์มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจากหน่วยงานเหล่านี้เกี่ยวกับข้อมูลทรัพยากรบุคคลที่ถ่ายโอนจากสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ในบริบทของความสัมพันธ์ในการจ้างงาน ในบางกรณี เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจสามารถเรียกร้องการอนุญาโตตุลาการที่มีผลผูกพันได้ ปาร์คเกอร์ได้เลือกศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการระงับข้อพิพาท – สมาคมอนุญาโตตุลาการอเมริกัน (International Centre for Dispute Resolution – American Arbitration Association (ICDR-AAA)) เป็นกลไกอิสระในการช่วยเหลือ ปาร์คเกอร์ยอมรับการตัดสินอันเป็นที่สุดและเขตอำนาจศาลที่มีผลผูกพันของคณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission (FTC)) ในการปฏิบัติตาม Data Privacy Framework
3.5 ข้อมูลติดต่อ
คำถามหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายนี้ควรส่งไปยังปาร์คเกอร์ดังต่อไปนี้:
ปาร์คเกอร์ ฮันนิฟิน คอร์ปอเรชั่น | Parker-Hannifin Corporation
เรียน: ฝ่ายกฎหมาย | Attn: Legal Department
6035 ปาร์คแลนด์บูเลอวาร์ด | 6035 Parkland Boulevard
คลีฟแลนด์ โอไฮโอ 44124 สหรัฐอเมริกา | Cleveland Ohio 44124 U.S.A.
หรือทางอีเมล: dataprivacy@parker.com | or by email to: dataprivacy@parker.com
3.6 การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้
นโยบายนี้อาจได้รับการแก้ไขเป็นครั้งคราวในลักษณะที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของหลักการ Data Privacy Framework และกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับ โดยจะมีการแจ้งให้ทราบตามสมควรเกี่ยวกับการแก้ไขดังกล่าว
4.0 การอ้างอิง
มีการอ้างอิงถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของปาร์คเกอร์สำหรับบริการออนไลน์แล้วข้อกำหนดการใช้งานที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้ ซึ่งสามารถพบได้โดยคลิกที่ลิงก์ “นโยบายความเป็นส่วนตัว” (หรือคำแปลที่เทียบเท่า) ที่อยู่ที่ด้านล่างของหน้า Landing สำหรับ www.parker.com
มีการอ้างอิงถึงแนวทางบันทึกการเก็บรักษาและการคุ้มครองของปาร์คเกอร์ (1.04)
ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับหน่วยงานของปาร์คเกอร์ที่มีส่วนร่วมในธุรกิจที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (ในทุกระดับลูกค้า)
Federal Acquisition Regulation (FAR) 52.204-21 (Basic Safeguarding of Covered Contractor Information Systems) Defense Federal Acquisition Regulation (DFARS) 204.73 (Safeguarding Covered Defense Information and Cyber Incident Reporting), DFARS 252.204-7012 (Safeguarding Covered Defense Information and Cyber Incident Reporting) และ the National Institute of Standards and Technology (NIST) Special Publication (SP) 800-171 ใช้กับหน่วยงานเหล่านี้ หน่วยงานใดๆ ของปาร์คเกอร์ที่มีส่วนร่วมกับธุรกิจที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดของ FAR DFARS และ NIST เหล่านี้ที่มีผลใช้บังคับ
อัปเดตล่าสุด มกราคม 2567